อ้อยพันธุ์ใหม่ ‘อู่ทอง 14 – อู่ทอง 15’

Sorry, this entry is only available in Thai. For the sake of viewer convenience, the content is shown below in the alternative language. You may click the link to switch the active language.

กรมวิชาการเกษตรประสบผลสำเร็จในการปรับปรุงพันธุ์อ้อยพันธุ์ใหม่ 2 พันธุ์ “อู่ทอง 14” “อู่ทอง 15” ให้ผลผลิตสูงถึง 18-28 ตันต่อไร่ เพื่อเป็นการเพิ่มทางเลือกใหม่แก่เกษตรกร นายสมชาย ชาญณรงค์กุล อธิบดีกรมวิชาการเกษตร เปิดเผยว่า ในช่วงที่ผ่านมากรมวิชาการเกษตร ประสบความสำเร็จในการปรับปรุงพันธุ์อ้อยพันธุ์ใหม่เพิ่มอีก 2 พันธุ์ คือ “อ้อยพันธุ์อู่ทอง 14” และ “พันธุ์อู่ทอง 15” คณะกรรมการวิจัยปรับปรุงพันธุ์พืชได้ประกาศเป็นพันธุ์แนะนำของกรมวิชาการเกษตรเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ถือเป็นทางเลือกให้ชาวไร่อ้อยที่ต้องการใช้พืชพันธุ์ใหม่เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต โดยเฉพาะการเพิ่มผลผลิตต่อไร่สูงขึ้น สำหรับอ้อยพันธุ์อู่ทอง 14 เป็นลูกผสมระหว่างพันธุ์แม่ 84-2-646 กับพันธุ์พ่ออู่ทอง 3 ที่ศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรสุพรรณบุรี อ้อยพันธุ์นี้มีลักษณะเด่นคือ ปลูกในพื้นที่ดินด่าง pH 7.8 ให้ผลผลิตน้ำหนักเฉลี่ย 21.19 ตันต่อไร่ สูงกว่าพันธุ์ K84-200 ที่ให้ผลผลิต 14.96 ตันต่อไร่ คิดเป็น 42% และให้ผลผลิตน้ำตาลเฉลี่ย 3.34 ตันซีซีเอสต่อไร่ สูงกว่าพันธุ์ K84-200 คิดเป็น 58% หากปลูกในดินด่างชุดตาคลีที่มี pH 8.1 จะให้ผลผลิต 17.1 ตันต่อไร่ ส่วนในดินด่างชุดลำนารายณ์ที่ค่า pH 8.0 จะให้ผลผลิตน้ำหนักเฉลี่ย 27.32 ตันต่อไร่ สูงกว่าพันธุ์ LK92-11 และเมื่อปรับปรุงดินด้วยการใส่กำมะถันผงในอ้อยปลูก จะให้ผลผลิตสูงถึง 28.64 ตันต่อไร่ ขณะที่พื้นที่ปลูกปลายฝนเขตน้ำฝน จะให้ผลผลิตเฉลี่ย 18.28 ตันต่อไร่ สูงกว่าพันธุ์ LK92-11 ที่ให้ผลผลิต 16.56 ตันต่อไร่ คิดเป็น 10% และให้ผลผลิตน้ำตาลเฉลี่ย 2.57 ตันซีซีเอสต่อไร่ สูงกว่าพันธุ์ LK92-11 คิดเป็น 8% สำหรับพื้นที่ปลูกต้นฝนเขตน้ำฝนให้ผลผลิตเฉลี่ย 12.53 ตันต่อไร่ ส่วนอ้อยพันธุ์อู่ทอง 15 เป็นลูกผสมตัวเองของพันธุ์อู่ทอง 2 มีลักษณะเด่น คือ ถ้าปลูกในดินร่วนปนทรายจะให้ผลผลิตน้ำหนักเฉลี่ย 16.97 ตันต่อไร่ สูงกว่าพันธุ์ K84-200 ที่ให้ผลผลิต 15.08 ตันต่อไร่ คิดเป็น 13% ทั้งยังสูงกว่าพันธุ์อู่ทอง 3 ที่ให้ผลผลิต 15.55 ตันต่อไร่ คิดเป็น 9% และให้ผลผลิตน้ำตาลเฉลี่ย 2.47 ตันซีซีเอสต่อไร่ สูงกว่าพันธุ์ K84-200 คิดเป็น 11% และสูงกว่าพันธุ์อู่ทอง3 คิดเป็น 5% สำหรับพื้นที่ปลูกปลายฝนเขตน้ำฝนให้ผลผลิตน้ำหนักเฉลี่ย 17.91 ตันต่อไร่ สูงกว่าพันธุ์ LK92-11 ที่ให้ผลผลิต 14.53 ตันต่อไร่ คิดเป็น 23% และให้ผลผลิตน้ำตาลเฉลี่ย 2.37 ตันซีซีเอสต่อไร่ สูงกว่าพันธุ์ LK92-11 ประมาณ 12% เป็นต้น สนใจสอบข้อมูลได้ที่ศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรสุพรรณบุรี โทร.0-3555-1543, 0-3555-1433 แหล่งที่มา: http://www.komchadluek.net/news/detail/215144
[fbcomments url="https://www.parichfertilizer.com/en/knowledge/%e0%b8%ad%e0%b9%89%e0%b8%ad%e0%b8%a2%e0%b8%9e%e0%b8%b1%e0%b8%99%e0%b8%98%e0%b8%b8%e0%b9%8c%e0%b9%83%e0%b8%ab%e0%b8%a1%e0%b9%88-%e0%b8%ad%e0%b8%b9%e0%b9%88%e0%b8%97%e0%b8%ad%e0%b8%87-14-%e0%b8%ad/" width="375" count="off" num="3" title="Comments" countmsg="wonderful comments!"]

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save