ปลูกมะขามเปรี้ยวยักษ์100 ไร่ ผลผลิตกว่า 1,500 ตัน

มะขามเปรี้ยวยักษ์….แหล่งใหญ่ ที่ กาญจน์ พื้นที่ปลูกนับ 100 ไร่ ผลผลิตกว่า 1,500 ตัน แม้จะมีการพูดถึงมะขามเปรี้ยวยักษ์ในฐานะพืชเศรษฐกิจที่น่าสนใจอยู่บ่อยครั้งแต่เรื่องราวของมะขามเปรี้ยวดูจะมีการนำเสนอผ่านสื่อค่อนข้างน้อยเมื่อเทียบกับพืช อีกหลายชนิด มะขามเปรี้ยวยักษ์จึงดูเหมือนว่าจะเป็นพืชนอกสายตาที่หลายคนคิดไม่ถึงว่า จะเป็นพืชที่สร้างรายได้ที่น่าสนใจอย่างมากให้กับคนปลูกอย่างเงียบๆ มานานหลายปี มะขามเปรี้ยวยักษ์ที่มีการปลูกกันอย่างเป็นล่ำ เป็นสันระดับ 100 ไร่ ของคนปลูกเพียง 10 กว่าคน ของเกษตรกร ที่ จ.กาญจนบุรี ที่นำผลิตภัณฑ์จากมะขามเปรี้ยวยักษ์เปิดตลาด สู่ผู้บริโภคอย่างต่อเนื่องจนทำให้ผลิตภัณฑ์จากมะขามเปรี้ยวยักษ์ เป็นที่รู้จักและ ได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ขยายตลาด ของมะขามยักษ์ให้เติบโตอย่างมากในช่วง 2-3 ปี มานี้ จึงทำให้มะขามเปรี้ยวได้รับความสนใจในการขยายพื้นที่ปลูกเพิ่มขึ้นอย่าง ต่อเนื่อง โดยเฉพาะในพื้นที่เขตภาคเหนือ จ.เชียงใหม่ ซึ่งเป็น อีกแหล่งผลิตมะขามเปรี้ยวยักษ์ที่มีผลผลิตออกสู่ตลาดแล้วเช่นกัน วันนี้เรามีโอกาสได้แวะมาเยี่ยมชมกลุ่มวิสาหกิจชุมชน มะขามเปรี้ยวยักษ์ โกอินเตอร์ ที่ อ.ไทรโยค จ. กาญจนบุรี อีกครั้ง วันนี้ตลาดเติบโตไปมาก ผลผลิตมีไม่เพียงพอกับความต้องการ ของลูกค้าเลยทีเดียว ขณะเดียวกันสมาชิกกลุ่มก็มีการขยายพื้นที่ปลูกเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง หลังจากได้พูดคุยเราเอง แทบจะไม่เชื่อว่ามะขามเปรี้ยวยักษ์ที่ว่าจะทำรายได้ให้ดีขนาดนี้ และ ที่สำคัญตลาด ยังมีความต้องการสูง คุณสร้อยสน ปรกแก้ว ตัวแทนกลุ่มฯ เล่าว่า ปลูกมะขามเปรี้ยวยักษ์ มาประมาณ 20 ปี ปัจจุบันมีเนื้อที่กว่า 30 ไร่ โดยเริ่มประสบความสำเร็จในปีที่ 4-5 ซึ่งตอนนั้นมองเห็นแล้วว่ามะขามเปรี้ยวยักษ์ น่าจะเป็นพืชเศรษฐกิจที่สามารถ สร้างรายได้ให้ครอบครัวเพราะว่าลงทุนน้อย แต่ผลผลิตที่ได้มากเกินคุ้ม เพราะผลผลิตที่ออกมานั้นสามารถ ส่งเข้าสู่ตลาดได้ 3 แบบ คือ มะขามอ่อน มะขามแช่อิ่ม และมะขามเปียก จึงได้ชักชวนกลุ่มแม่บ้านในชุมชนมารวมตัวกันปลูก ซึ่งในช่วงแรกๆ ก็ไม่ค่อยมีคนสนใจ จนกระทั่งสามารถรวมตัวกันและร่วมกันจัดตั้งกลุ่มวิสาหกิจชุมชนมะขามเปรี้ยวยักษ์โกอินเตอร์ผสมผสานขึ้นมาเมื่อประมาณ ปี 2550 โดยมีสมาชิกประมาณ 12 คน พื้นที่การปลูกมะขาม เปรี้ยวยักษ์ประมาณ 100 ไร่ และแม้จะมีพื้นที่และผลผลิตออกสู่ตลาดมากเท่าใดก็ยังไม่ เพียงพอต่อความต้องการของตลาดทั้งภายในและต่างประเทศ เพราะมะขามสามารถแปรรูปได้ หลากหลายรูปแบบ ด้านวิธีการปลูกและบำรุง ดูแล มะขามเปรี้ยวยักษ์นั้นก็ง่ายไม่มีความยุ่งยากอะไร เพราะมะขามเปรี้ยวยักษ์สามารถปลูกได้ในทุกสภาพดิน โดย 1 ไร่จะปลูกได้ 16 ต้น ระยะห่างไม่ต่ำกว่า 10 เมตร ในส่วนของการบำรุงดูแลนั้นคุณสร้อยสนจะเน้นไปที่การใช้ปุ๋ยหมัก ปุ๋ยคอก จะมีการใช้ปุ๋ยเคมีเป็นบางช่วง ทำให้สามารถลดต้นทุนการผลิตได้เป็นอย่างดีโดยเฉพาะมูลของสัตว์ปีกจะช่วยเร่งดอกได้เป็นอย่างดี โดยในช่วงที่มะขามเปรี้ยว ติดฝักอ่อนนั้นควรใช้ปุ๋ยเคมี 13-13-21 เดือนละ 1 ครั้ง และก่อนการ เก็บเกี่ยวเพื่อทำมะขามแช่อิ่มให้ใช้ปุ๋ยเคมี 8-24-24 อีก 1 ครั้ง หลังเก็บเกี่ยวเสร็จควรมีการตัดแต่งกิ่ง เพื่อให้มะขามแตกกิ่งใหม่และ ให้ผลผลิตในฤดูต่อไป มะขามเปรี้ยวยักษ์จะให้ผลผลิตในปีที่ 3 ผลผลิตใน ระยะ 5 ปีแรกนั้นจะไม่สม่ำเสมออยู่ที่ 3-5 ตัน /ไร่ ระยะ 7 ปี ผลผลิตเริ่มสม่ำเสมอประมาณ 6 ตัน/ไร่ ระยะ 10 ปี ผลผลิตจะอยู่ที่ 1 ตัน/ไร่ ส่วนระยะการให้ผลผลิต มะขามเปรี้ยวยักษ์จะ ออกดอก ช่วงเดือนเมษายน จากนั้น 40 วันจะเริ่มเป็นฝักอ่อน จากนั้นอีก 45 วัน จะเข้าสู่ช่วงมะขามอ่อนหรือมะขามน้ำพริก จากนั้นอีก 90 วัน จะเข้าสู่ช่วงมะขามแช่อิ่มและต่อมาอีก 75 วัน จะ เข้าสู่ช่วงมะขามเปียก ด้านตลาดนั้นจะมีพ่อค่าแม่ค้าจากสุพรรณ กรุงเทพฯ นครปฐม ราชบุรี ทั้งที่เป็นรายย่อยและส่งเข้าโรงงานเข้ามาซื้อถึงที่ ไม่ต้องเสียเวลาออกไปวิ่งหาตลาด คุณสร้อยสนบอกว่า ปีนี้สถานการณ์ ทางเศรษฐกิจไม่ดีนัก ราคามะขามเปรี้ยวยักษ์ลดลงมามาก ราคามะขามสดหน้าสวนอยู่ที่ 20-25 บาท/กก. ขณะที่ปีที่ผ่านๆมาราคาสูงกว่านี้เกือบเท่าตัว ถ้าเป็นช่วงในฤดูกาลประมาณเดือน ก.ย.-พ.ย. ราคาอยู่ที่ 10-15 บาท/กก. ถ้าเป็นมะขามเปียกแห้ง ราคาหน้าไร่ 55-60 บาท/กก. (4 กก.มะขามสด เท่ากับ 1 กก.มะขามแห้ง) นั่นเท่ากับว่าถ้าขายมะขามสดจะได้ราคาดีกว่าขายมะขามเปียก แต่ถ้าแปรรูปก็จะได้ราคาสูงขึ้น อย่างแช่เกลือส่งโรงงาน ราคา 30-40 บาท/กก. ถ้าแช่อิ่มราคาจะสูงขึ้น 150-200 บาท/กก. เลยทีเดียว ด้านผลผลิตและรายได้ คุณสร้อยสนบอกว่า มะขาม 1 ต้น อายุ 10 ปีขึ้นไปจะให้ผลผลิตประมาณ 700-1,000 กก. (มะขามสด) 1 ไร่ มีประมาณ 15 ต้น เท่ากับว่า 1 ไร่ จะให้ผลผลิต ประมาณ 1,500 ตัน หรือมีรายได้โดยประมาณ 8 หมื่น- 1 แสนบาท / 1 ไร่ หรือหากต้นไหนให้ ผลผลิตดกจะอยู่ที่ 3-4 หมื่น/ต้นเลยทีเดียว เห็นไหมล่ะว่ารายได้ จากมะขามเปรี้ยวยักษ์นั่นไม่ธรรมดาเลยทีเดียว จากรายได้ที่กล่าวมาคุณสร้อยสนเธอบอกว่า มะขามเปรี้ยวยักษ์ เปรียบเสมือนทองคำบนดิน ที่สร้างรายได้หลักให้กับครอบครัวจนสามารถส่งให้ลูกๆ ได้เรียนในโรงเรียนชั้นนำ ซึ่งเธอได้บอกว่า เพราะมะขามเปรี้ยวยักษ์ทำให้เธอมีแรงกำลัง และทุนทรัพย์ ส่งลูกสาว คนโตเรียนในระดับปริญญาโท นอกจากนี้เธอเองยังมีตั้งมั่นที่จะเจริญรอยตามคำสั่งสอนของพระเจ้าอยู่หัวที่สอนให้รู้จักพอเพียง เพียงพอกับ สิ่งที่เป็นอยู่ รู้จักใช้ทรัพยากรที่มีให้คุ้มค่าไม่ว่าจะเป็นการทำปุ๋ยหมักใช้เอง เพื่อลดต้นทุน การใช้ปุ๋ยเคมี ปลูกผัก ปลูกข้าวในสวนหลังบ้านเพื่อลดค่าใช้จ่ายครัวเรือน นอกจากนี้คุณสร้อยสนยังได้แนะนำเคล็ดลับกรรมวิธีการทำมะขาม แช่อิ่มที่สามารถสร้างรายได้อย่างไม่น่าเชื่อ อันดับแรกต้องนำมะขามแกะเปลือกแช่น้ำเกลือ 3 วัน จากนั้นผ่าเม็ดออก จากนั้นเป็นขั้นตอนการเตรียมน้ำปูนใส อัตราส่วน น้ำสะอาด 100 ลิตร ต่อ ปูนแดง 2 กิโลกรัม คนให้เข้ากันจากนั้นทิ้งไว้ 1 คืน หลังจากนั้นตักน้ำปูนใส ส่วนบนที่ไม่มีตะกอนเทราดบนมะขาม ที่แช่น้ำเกลือไว้ข้างต้นมาแช่ในน้ำปูนใสประมาณ 2 -3 ชั่วโมง จากนั้นตักมะขามขึ้นมาทิ้งไว้ให้สะเด็ดน้ำ ระหว่างนี้ให้จัดเตรียมการทำน้ำเชื่อม สำหรับแช่อิ่มในอัตราส่วนน้ำตาล 1 กิโลกรัม น้ำสะอาด 1.5 กิโลกรัม เคี่ยวจนได้ที่รอให้เย็นเทน้ำเชื่อมที่ได้ให้ท่วมมะขามที่ จัดเตรียมไว้ทิ้งไว้ 24 ชั่วโมง พอครบเวลาเทน้ำเชื่อมทิ้ง ซึ่งขั้นตอนนี้เราจะทำทั้งหมด 4 ครั้ง โดยน้ำเชื่อม ครั้งแรกและครั้งที่สองที่เททิ้งนั้นเพื่อล้างน้ำปูนที่แช่มะขามไว้ หากใครต้องการมะขามแช่อิ่ม ที่อมเปรี้ยวอมหวานก็ให้ผ่านขั้นตอน แค่ 3 ครั้ง และหาก ต้องการมะขามแช่อิ่มที่มีรสชาติหวาน กรอบ อร่อย ก็ให้ทำให้ครบ 4 ครั้ง และเพื่อให้มะขาม แช่อิ่มสามารถเก็บไว้ได้นานโดยไม่ต้องพึ่ง สารกันบูดในทุกๆวันจะต้อง นำน้ำเชื่อมแยกออกมาจากมะขามที่ได้แช่อิ่ม ไว้นำมาอุ่นและนำมะขามกลับมา แช่ใหม่ทำอย่างนี้ ซึ่งวิธีการนี้จะสามารถ เก็บรักษาได้นานกว่า 1-2 ปี ในอุณหภูมิปกติ สำหรับใครที่สนใจขอคำแนะนำในการปลูกหรือสนใจปลูกมะขามเปรี้ยวสามารถติดต่อได้ที่ คุณสร้อยสนบอกว่าเธอยินดีให้คำแนะนำโดยไม่คิดค่าใช้จ่ายใดๆเพราะขณะนี้ สวนของเธอ ก็มักจะมีนักเรียน นักศึกษา หน่วยงานราชการและเอกชนเข้ามาศึกษาดูงานอย่างต่อเนื่อง หากใครต้องการพันธุ์มะขามเปรี้ยวยักษ์ก็สามารถติดต่อขอซื้อได้ที่นี่ในราคาต้นละ 60 บาท ติดต่อได้ที่คุณสร้อยสน ปรกแก้ว เลขที่ 1/4 หมู่ 3 ต.วังกระแจะ อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี 08-1943-0793 หรือ Facebook :  Rakkaset Nungruethail รักษ์เกษตร แหล่งที่มา: http://www.vigotech.co.th/index.php?lay=show&ac=article&Id=539817361&Ntype=8
[fbcomments url="https://www.parichfertilizer.com/knowledge/%e0%b8%9b%e0%b8%a5%e0%b8%b9%e0%b8%81%e0%b8%a1%e0%b8%b0%e0%b8%82%e0%b8%b2%e0%b8%a1%e0%b9%80%e0%b8%9b%e0%b8%a3%e0%b8%b5%e0%b9%89%e0%b8%a2%e0%b8%a7%e0%b8%a2%e0%b8%b1%e0%b8%81%e0%b8%a9%e0%b9%8c100/" width="375" count="off" num="3" title="แสดงความคิดเห็น" countmsg="wonderful comments!"]

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save